ยาคูลท์
ยาคูลท์คืออะไร?

❤❤ ส่วนประกอบสำคัญของยาคูลท์ ❤❤
ยาคูลท์ เป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์นับพันล้านตัว ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้มาจากการหมักนม กับน้ำตาลกลูโคส โดยใช้จุลินทรีย์ชิโรต้า ยาคูลท์ไม่ใช่เป็นเพียงนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต แต่เป็น " โพรไบโอติก(Probiotics) " หรืออาหารเสริมที่มีแบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย จุลินทรีย์ชิโรต้า หรือแลคโตบาซิลลัสคาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้าได้ถูกคัดเลือกมาโดยเฉพาะ เพราะมีความสามารถทนต่อสภาวะความเป็นกรดที่รุนแรงในกระเพาะอาหารของคนเรา และทนต่อความเป็นด่างที่รุนแรงของน้ำดี สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ในลำไส้ และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพของเราได้

❤❤ ส่วนประกอบสำคัญของยาคูลท์ ❤❤
- นมคืนรูปขาดมันเนย 50%
- น้ำตาล 18%
- จุลินทรีย์กรดนม (แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้า)
- ในยาคูลท์ 1 ขวด (80 cc.) มีจุลินทรีย์ชิโรต้าที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 8 พันล้านตัว
ไขข้อสงสัย
1.มีอะไรอยู่ในขวดยาคูลท์
นมคืนรูปขาดมันเนย น้ำตาล น้ำ สารแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ และจุลินทรีย์ชิโรต้า 8 พันล้าน ตัวต่อ 1 ขวด
นมคืนรูปขาดมันเนย น้ำตาล น้ำ สารแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ และจุลินทรีย์ชิโรต้า 8 พันล้าน ตัวต่อ 1 ขวด
2.จุลินทรีย์ที่อยู่ในยาคูลท์คืออะไร
จุลินทรีย์ที่อยู่ในยาคูลท์ หรือ "แลคโตบาซิลลัส คาซอิ" สายพันธุ์ชิโรต้า เป็นกลุ่มเชื้อแบคทีเรียกรดนมที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีอยู่แล้วตามธรรมชาติในลำไส้เล็ก เป็นสายพันธุ์ที่มีความพิเศษเฉพาะของยาคูลท์ เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ สำหรับชื่อสายพันธุ์ชิโรต้านั้น ได้ตั้งเป็นเกียรติแก่ ดร.มิโนรุ ชิโลต้า ผู้ค้นพบ
3.จุลินทรีย์ที่อยู่ในยาคูลท์ให้ประโยชน์อย่างไรบ้าง
ช่วยปรับสมดุลย์ของจุลินทรีย์ในลำไส้ ยับยั้งการสร้างสารพิษของแบคทีเรียที่ให้โทษ ช่วยให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็งและการติดเชื้อ
4.ยาคูลท์ต่างกับโยเกิร์ตทั่วไปอย่างไร
ทั้งยาคูลท์และโยเกิร์ตจัดเป็นนมเปรี้ยวชนิดเดียวกัน ซึ่งได้มาจากการหมักนมด้วยจุลินทรีย์ที่มีชีวิต แต่สำหรับยาคูลท์ใช้จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส เน้นการทานเพื่อสุขภาพของระบบลำไส้
5.ยาคูลท์มีพลังงานเท่าไหร่
ยาคูลท์ 1 ขวด ให้พลังงาน 71 กิโลแคลอรี่
6.สียาคูลท์เป็นสีธรรมชาติหรือไม่
ยาคูลท์ไม่มีการเติมสีเจือปนใดๆ เลยแม้แต่น้อย สีที่เป็นเอกลักษณ์นี้เกิดขึ้นจากกระบวนการหมักที่ได้จากกระบวนการ Caramelisation ตามธรรมชาติ
7.ทำไมยาคูลท์ต้องมีน้ำตาล
เพื่อเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมแก่แบคทีเรีย ช่วยให้แบคทีเรียมีชีวิตอยู่ใด้ระหว่างช่วงเวลาการเก็บรักษาจนถึงมือลูกค้า
8.ยาคูลท์มีสารกันบูดหรือไม่
ยาคูลท์ไม่มีการเติมสารกันบูดและสารกันการตกตะกอน (Stabilizer) เพราะกรดนมในยาคูลท์ที่เกิดจากจุลินทรีย์ชิโรต้าถูกสร้างขึ้นในระหว่างกระบวนการหมักที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เน่าเสีย
9. ทำไมยาคูลท์ต้องดื่มแค่วันละ 1 ขวด
ผู้ผลิตแนะนำให้ดื่ม 1 ขวดต่อวัน เพื่อส่งเสริมสมดุลย์ด้านบวกของแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้
10.ดื่มยาคูลท์วันละ 2 ขวดได้หรือไม่
ยาคูลท์คืออาหาร ฉะนั้นการดื่มมากกว่า 1 ขวดต่อวันนั้น จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพียงแต่การดื่ม 1 ขวดต่อวัน จะให้แบคทีเรียในปริมาณที่เพียงพอสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี 1 คน ในบางครั้งบางคราวคุณอาจต้องการดื่ม 2 ขวด เพื่อให้ลำไส้ได้รับการเสริมแรงอย่างจริงจังก็สามารถทำได้เช่นกัน
11.ควรเก็บยาคูลท์ในตู้เย็นหรือไม่
ควรเก็บยาคูลท์ไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส เพื่อคงคุณภาพของยาคูลท์ และสามารถแช่แข็งได้เช่นกัน
12.ผู้หญิงมีครรภ์ดื่มยาคูลท์ได้หรือไม่
ยาคูลท์เหมาะสำหรับกับผู้หญิงมีครรภ์ เนื่องจากในยาคูลท์มีจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อดื่มแล้วอาการท้องผูกหรืออาการไม่ย่อยในระหว่างตั้งครรภ์จะหายไป
13.ทำไมยาคูลท์ถึงมีแต่ขวดเล็ก 80 ซีซี ขนาดเดียว ไม่มีขวดใหญ่
ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับปริมาณแนะนำที่ควรดื่มในแต่ละวันคือ 1 ขวดเล็ก และการที่ร่างกายรับเชื้อจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสมากเกินไป จะทำให้ท้องเสียได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีการผลิตขวดใหญ่
14.ขวดยาคูลท์ทำมาจากอะไร
พลาสติก Polystyrene ที่สามารถใช้บรรจุอาหารได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และวัสดุปิดฝาขวดคือ Aluminum Foil
20."อหิวาตกโรค" จุดพลิกยาคูลท์ไทย
จุดที่พลิกผันจริงๆ คือ เมื่อปี 2515 เกิดอหิวาตกโรคระบาดแถวปากน้ำ จ.สมุทรปราการ บริษัทยาคูลท์ไทยนำยาคูลท์เพื่อเยียวยาอาการผู้ป่วย ซึ่งตอนนั้นมีที่อาการหนักอยู่ 3 คน ซึ่งถ้าผู้ป่วยจะใช้ยาคูลท์แทนยาจะต้องหยุดดื่มยาทั้งหมด และต้องดื่มยาคูลท์ต่างน้ำ ปรากฏว่าสามชั่วโมงผ่านไป คนไข้ที่ดื่มยาคูลท์หยุดถ่าย และกลายเป็นกระแส talk of the town ณ บัดนั้น
ยาคูลท์รอบโลกมีไซส์ที่แตกต่างกัน เช่น ขวดไซส์ 100 มล. เห็นดาดดื่นที่สิงค์โปร์ ไต้หวัน และจีน แต่ที่นี่ประเทศไทยมีไซส์เดียวตลอดกาลนั่นคือ 80 มล. และขนาดนี้ก็มีขายเฉพาะ เกาหลี มาเลเซีย และอเมริกาเท่านั้น เพราะไซส์นี้มีจุลินทรีย์แลคโตบัลซิลัสมากกว่า 8,000 ล้านตัว เชื่อว่าเพียงพอสำหรับการสร้างสมดุลภายในลำไส้ เหมาะกับคนไทย และที่สำคัญ ถ้ากระซวกมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียขี้แตกขี้แตนไม่รู้ตัว!
เลือกซื้อยาคูลท์จากตู้แช่ที่เก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส เพราะดีกรีหนาวเยี่ยงนี้จะทำให้ได้จุลินทรีย์ลั้ลลาและพร้อมจะทำงานให้เราได้เต็มที่
16.ชื่อเป็นยา
ยาคูลท์เป็นนมเปรี้ยวสัญชาติญี่ปุ่น 1000% แปลกตรงที่ชื่อไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น ทั้งที่ประเทศนี้ชาตินิยมจัดมาก YAKULT เป็นภาษา Esperanto (ภาษาประดิษฐ์ของหมอรัสเซีย) มาจากคำว่า "Jahurto" มีความหมายเท่ากับ "yoghurt" ซึ่งแปลตรงตัวว่า "การมีอายุยืนยาว"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น